
ต้อเนื้อ เป็นโรคตาที่พบได้บ่อย แต่ไม่มีอันตรายมากนัก มีลักษณะเป็นแผ่นสีแดงรูปสามเหลี่ยมคล้ายปีก ( Wing-shaped ) พบในบริเวณช่องเปิดระหว่างเปลือกตา งอกจากตาขาว ( Sclers) ลามเข้าไปในตาดำ (Cornes) มักพบทางหัวตา ( Nasal ) มากกว่าทางหางตา (Temporal ) ต้อเนื้อจะค่อยๆ ลามเข้าไปบริเวณตาดำอย่าง ช้าๆ ส่วนใหญ่กินเวลา เป็น 10 ปี ในกรณีที่ต้อเนื้อ ลามเข้าไปมากจนถึงกลางตาดำ ตาจะมัว ทำให้มีเห็นภาพได้แย่ลง
 |
สาเหตุของต้อเนื้อ เชื่อกันว่ามาจาก เยื่อบุตาเกิดการระคายเคือง หรือการแพ้ อันอาจเนื่องมา ถูกรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต ในแสงแดด หรือถูกลมและฝุ่นมากๆ โรคนี้จึงมักเกิดกับผู้ทำงานกลางแจ้ง หรือผู้ที่โดนฝุ่นลมมากๆ เช่น คนที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ใส่ต้อเนื้อ เป็นโรคตาที่พบได้บ่อย แต่ไม่มีอันตรายมากนัก มีลักษณะเป็นแผ่นสีแดงรูปสามเหลี่ยมคล้ายปีก ( Wing-shaped ) พบในบริเวณช่องเปิดระหว่างเปลือกตา งอกจากตาขาว ( Sclers) ลามเข้าไปในตาดำ (Cornes) มักพบทางหัวตา ( Nasal ) มากกว่าทางหางตา (Temporal ) ต้อเนื้อจะค่อยๆ ลามเข้าไปบริเวณตาดำอย่าง ช้าๆ ส่วนใหญ่กินเวลา เป็น 10 ปี ในกรณีที่ต้อเนื้อ ลามเข้าไปมากจนถึงกลางตาดำ ตาจะมัว ทำให้มีเห็นภาพได้แย่ลง
สาเหตุของต้อเนื้อ
เชื่อกันว่ามาจาก เยื่อบุตาเกิดการระคายเคือง หรือการแพ้ อันอาจเนื่องมา ถูกรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต ในแสงแดด หรือถูกลมและฝุ่นมากๆ โรคนี้จึงมักเกิดกับผู้ทำงานกลางแจ้ง หรือผู้ที่
 |
โดนฝุ่นลมมากๆ เช่น คนที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ใส่ หน้ากากหมวกกันน็อค หรือไม่ใส่แว่นตาในกรณีที่ต้องโดนแสงแดด ลม และฝุ่นละอองผู้ที่เป็นต้อเนื้อมักจะมี อาการ ระคายเคืองตา แสบตา น้ำตาไหล คันตา และตาแดง ถ้าเป็นน้อยจะไม่มีผลต่อการมองเห็น จะมีผลต่อการมองเห็นก็ต่อเมื่อต้อได้ลามไปถึงบริเวณกลางตาดำแล้ว เพราะตัวต่อจะบังรูม่านตา ทำให้การเห็นภาพมัว เหมือนมีอะไรบังตา
วิธีการรักษา
ถ้ายังเป็นไม่มากก็ ขอแนะนำให้ใช้แว่น ( ที่สามารถกันรังสี อุลตร้าไว-โอเล็ตได้ ) กันลม ในเวลาที่ต้องออกไปกลางแจ้ง หรือโดนลมและฝุ่นละออง ถ้าหากมีอาการอักเสบของต้อเนื้อ เช่น มีอาการระคายเคือง ตาแดง แพทย์ก็มักจะให้ยาหยอดตาเพื่อบรรเทาอาการระคาย แต่ยาหยอดตาที่ให้มา ไม่ได้รักษาต้อให้หายหรือให้ต้อเล็กลง เพียงแต่บรรเทาอาการเท่านั้น
 |
การผ่าตัดต้อเนื้อ จักษุแพทย์ มักจะแนะนำให้คนไข้ผ่าตัดก็ต่อเมื่อ ต้อเนื้อได้ลุกลามเข้าบริเวณตาดำ ซึ่งมีผลทำให้การมองเห็นแย่ลงแล้ว และมักจะไม่ทำการผ่าตัดในกรณีที่เป็นน้อย เพราะว่าต้อเนื้อยังไม่มีผลกับการมองเห็น ไม่เป็นอันตรายใดๆ และ การผ่าตัดลอกต้อเนื้อออกแล้ว อาจมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นได้อีก ดังนั้น ในผู้ป่วยที่ลอกตาต้อแล้ว ก็ขอให้ปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการเสี่ยงต่อเป็นต้อด้วย (ใส่แว่นตากันแดด กันรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตด้วยก็จะดี) เพราะการลอกตาใหม่อีกครั้งจะทำยากกว่าการลอกครั้งแรก เทคนิคการผ่าตัดในปัจจุบันก็มีหลายแบบ เช่น
1. โดยการตัดต้อเนื้อออกจากเยื่อตาขาว และลอกต้อส่วนที่ติดอยู่บนตาดำออก
2. ลอกต้อเนื้อตามวิธีที่ 1. ร่วมกับการวางแร่ ซึ่งจะทำให้เกิดรังสีเบต้าออกมา เพื่อป้องกัน การกลับมาเป็นใหม่ได้
3. ลอกต้อเนื้อออกตามวิธีที่ 1. ร่วมกับการตัดเอาเนื้อเยื่อตาขาวจากด้านบนของลูกตา มาปะลงบริเวณตาขาวที่ได้รับการลอกต้อเนื้อออกไปแล้ว การผ่าตัดวิธีนี้ จะต้องใช้ความละเอียดและประณีตมาก ฉะนั้น จึงต้องผ่าตัดด้วยกล้องจุลทรรศน์ และนับว่าเป็นวิธีที่ดีมากในการป้องกันการกลับมาเกิดใหม่ของต้อเนื้อ