31. แว่นตาสองชั้นเท่าที่เห็นมีหลายแบบ อย่างไหนถึงจะดี
เลนส์สองชั้นที่ผลิตขึ้นมาในท้องตลาดก็เพื่อ สนองความสะดวกในการมองไกลมองใกล้ในแว่นอันเดียว ส่วนใหญ่คนที่ใช้มักเป็นคนสูงอายุ ที่ต้องใช้แว่นสองอัน อันหนึ่งมองไกลอีกอันหนึ่งมองใกล้ ทั้งนี้เนื่องจากกำลังเลนส์มองไกลและมองใกล้ต่างกัน ก็มีคนหัวใสบางคนรำคาญนักพกแว่นทีละ 2 อัน เลยทุบแตกมันเสีย เอาอย่างละครึ่งเอามาต่อกัน คือเอาครึ่งแตกของเลนส์ดูไกลวางข้างบนติดต่อดับครึ่งแตกของเลนส์ดูไกลวางข้างบนติดต่อกับครึ่งแตกของเลนส์ดูใกล้ วางล่างเอาไปใส่อวดชาวบ้าน บางคนหัวใสอีกคิดวิธีวางให้มันดีขึ้นเรื่อย ๆ คนแรกที่ได้รับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของแว่น 2 ชั้น ก็ได้แก่นายเบนจามิน แฟรงคลิน ที่เราเคยได้ยิน
ชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องชักว่าวตอน
ฟ้าผ่า หาประจุไฟฟ้าในอากาศก็วิวัฒนาการมาเรื่อยจนถึงปัจจุบันก็ยังมีแบบใหม่ ๆ ออกมาอีก ที่พวกเราชาวบ้านคุ้นกันอยู่ในเมืองไทยเวลานี้ได้แก่เลนส์ 2 ชั้น ชนิดที่มองไกลอยู่ข้างบนมองใกล้ทำเป็นวงกลมอยู่ด้านล่าง เรียกตามภาษาสากลว่าเลนส์คลิปต๊อค Kryptok แบบนี้เห็นจะเป็นแบบแรกในโลกที่ใช้เนื้อเลนส์อันมองไกลเป็นเนื้อแก้วแบบหนึ่ง อันมองใกล้ก็เป็นอีกแบบหนึ่ง อันมองใกล้ใหญ่เล็กก็แล้วแต่ทางโรงงานไหนคิดว่าดีที่สุดสำหรับมองใกล้เห็นกว้างพอในขณะเดียวกันก็ต้องคิดถึงว่าเวลาดูไกลก็ต้องกว้างพอด้วย เลนส์นี้นับเป็นเลนส์ 2 ชั้นแบบแรกที่สมบูรณ์แบบในปัจจุบันก็ยังใช้กันมาก ข้อดีคือ เลนส์ชนิดนี้นับว่าถูกที่สุดในบรรดาเลนส์ 2 ชั้นที่มีในปัจจุบัน ทั้งนี้ก็เพราะว่าทำมานานเทคนิคต่าง ๆ มีหลายโรงงานรู้ ราคาก็ถูกลงเป็นของธรรมดา
ข้อดี คือ อย่างที่บอกแล้วว่าถูกหน่อยพวกเบี้ยน้อยหอยน้อยก็ค่อยยิ้มออกหน่อย
ข้อเสีย ของเลนส์ชนิดนี้เวลาคนใส่แว่นชนิดนี้ใหม่ ๆ อาจเกิดการเวียนศีรษะ มองไกลมองใกล้อันเดียวกันดูแปลก ๆ เวลาดูใกล้อาจเห็นสีรุ้งตามขอบ ๆ บ้างเล็กน้อย แต่ใส่ ๆ ไปก็ชินไปเองแหละ เลนส์ 2 ชั้นอีกแบบหนึ่งที่วิวัฒนาการปรับปรุงต่อมาก็ได้แก่ แบบมองไกลอยู่ด้านบน แต่ส่วนล่างเวลาดูใกล้แทนที่จะเป็นวงกลมเขาก็เปลี่ยนให้เป็นแบบตัดครึ่งวงกลมเสีย ภาษาสากลเขาเรียกว่า Flat Top Type
ข้อดี ที่ว่าเวลาดูไกลก็มองได้มากขึ้น อีกส่วนดูใกล้ก็เห็นและคิดว่าอาจจะเกิดอาการวิงเวียนน้อยลงเมื่อใช้ระยะแรก ๆ เนื่องจากเวลาดูไกลดูใกล้ทันทีไม่มีช่องมาบังทำให้ตาปรับตัวได้เร็วขึ้น
ข้อเสีย ราคาแพงขึ้นมาหน่อย
แบบที่ 3 นี้ก็เอาความรู้จากเลนส์ 2 ชั้น สมัยแรกเริ่มเลยมาดัดแปลงที่ว่าแฟรงคลิน เอาเลนส์แตกแบ่งครึ่ง 2 อันมาต่อกันนั้น โรงงานบางแห่งแทนที่จะไปทำแตก ๆ แบบนั้น เราทำเป็นแผ่นเดียวกันเลย เพียงแต่ฝนดูไกลและดูใกล้ให้โค้งของเลนส์ต่างกันไป กำลังก็ต่างกันไปด้วย แบบนี้ภาษาสากลเขาเรียกว่าแบบ Executive Type
ข้อดี คือเหมาะสำหรับคนที่ทำงานใกล้ ๆ มาก เพราะความกว้างของการมองใกล้มีตั้งเกือบครึ่งของแว่น คนต้องใช้แว่นดูใกล้อยู่เรื่อยเวลามองหน้าคนก็เหลือบขึ้นมาก็ยังเห็นบ้าง
ข้อเสีย ราคาก็แพงขึ้นมาอี และเวลาใช้แรก ๆ อาจต้องใช้ระยะเวลาปรับตัวนานกว่า 2 พวกแรกบ้างพอสมควร นอกจากเลนส์ 2 ชั้น เรายังมี 3 ชั้น เราเรียกภาษาสากลว่า Trifocal Lens ผลิตขึ้นก็เนื่องจากอาชีพเช่น พวกช่างเวลามองใกล้เห็น แต่ถ้ามองห่างออกไปอีหน่อยก็ไม่เห็นเลนส์ 2 ชั้น ที่ว่านั้นระยะดูใกล้นั้นอยู่ใน
ช่วงประมาณตั้งแต่ 20 ซม. ถึง 40 ซม. เท่านั้น ที่จัดว่าสามารถมองเห็นชัด ห่างออกไปหน่อยก็ไม่เห็น บางคนต้องการดูไกลออกมากกว่า 40 ซม. แต่ไม่เกิน 1 เมตร เช่น พวกนักบินเวลาดูหน้าปัด หรือพวกนักรำพัด เวลาจะผ่องก็เห็นชัดขึ้นมาหน่อย นอกจากนี้ยังมีแทนที่จะดูใกล้ทำช่วงไว้ข้างล่างดันทำไว้ข้างบนเสียนี่ ก็เนื่องจากอาชีพซึ่งเลนส์พวกนี้ต้องสั่งพิเศษวิวัฒนาการของเลนส์ต่อมาก็มาถึงเลนส์อีกพวกหนึ่ง มองไกลมองใกล้อันเดียวกันดูไม่เห็นรอยต่อ เป็นเนื้อเดียวกัน ต้องใช้เทคนิคการเจียรหน้าเลนส์อย่างพิเศษมาก มีชื่อเรียกสากลว่าเลนส์ Varilux I ต่อมาปรับปรุงดีขึ้นมาอีกเรียก Varilux II แต่ก็คงยังต้องวิวัฒนาการต่อไปอีก เลนส์แบบนี้ถือว่าเป็นเลนส์หลายชั้น ก็ขอสรุปเสียว่า
การใส่แว่น 2 ชั้นนั้นจะเลือกแบบไหนก็ต้องแล้วแต่ อาชีพ การทำงาน ความต้องการในการใช้และสำคัญ คือ กระเป๋าสตางค์ด้วย
32. มีอาชีพติดต่อกับลูกค้า หรือต้องออกโทรทัศน์ ถ่ายหนัง ต้องใส่แว่น กลัวผู้ชม หรือผู้
มาติดต่อมองตาเราไม่เห็น เพราะกระจกสะท้อนแสงมาก แก้ไขอย่างไร
โรงงานผลิตเลนส์แว่นตาได้แก้ไขปัญหาอันนี้ โดยใช้ เลนส์เคลือบ ( Coated Lens ) ฟิล์มที่ใช้เคลือบนี้ จะทำให้แสงผ่านกระจกได้หมดหรือเกือบหมด จึงไม่มีการสะท้อนแสงเกิดขึ้นที่ผิวของเลนส์ ดังนั้นคู่สนทนาหรือผู้มาติดต่อกับเรา ก็สามารถมองเห็นตาเราได้อย่างชัดเจน ราคาก็ไม่แพงมากกว่าธรรมดาเท่าไรนัก
33. มีเพื่อนที่เริ่มเป็นต้อเนื้อ แพทย์แนะนำให้ใส่แว่นกันแดดจริงไหม ที่มันช่วยได้
เชื่อกันว่า ต้อเนื้อมีสาเหตุมาจากการถูกแดด ลม ฝุ่น และแสงอุลตราไวโอเลทมาก ๆ ร่วมกับการแก่ตัวของเยื่อบุตา การใช้แว่นกันแดดช่วยลด การถูกแสงแดด ลม ฝุ่น และแสงอุลตราไวโอเลทได้ จึงสามารถชะลอการเกิดต้อเนื้อได้ แต่จะไม่สามารถทำให้ต้อเนื้อที่เกิดขึ้นมาแล้วนั้นหายไปได้
บทความดังกล่าวได้เขียนมาประมาณ 27 ปีมาแล้ว เมื่ออ่านแล้วจะพบว่าคุณค่าของบทความยังใช้ได้อยู่ถึงเกือบ 100%
นายแพทย์ศุภชัย โชติบุตร ปัจจุบันอยู่โรงพยาบาล ตา หู คอ จมูก ปิ่นเกล้า
คุณเทียนชัย ตันละมัย และ ดร.เปรมวดี รัตนศิรินทราวุธ ปัจจุบันท่านทั้งสองพำนักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
คัดมาจากหนังสือสมาคม ฯ ครั้งที่ 16